ขั้นตอนการทำรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายรายเดือน

26 มิ.ย. 2560 15.26 น. | 32,751

          หลายคนเมื่อได้ยินคำว่า” รีไฟแนนซ์” อาจคิดถึงยอดหนี้ที่มากขึ้น ระยะเวลาการผ่อนที่ยาวนานขึ้นทำให้หลายคนไม่กล้ารีไฟแนนซ์ แต่ไม่เสมอไปเพราะนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และพวกเราหลายคนที่ทำเรื่องกู้ซื้อบ้านต่างเลือกการรีไฟแนนซ์เพื่อมาช่วยแบ่งเบาลดภาระดอกเบี้ยและค่าผ่อนชำระให้ลดลง ซึ่งหากคุณโชคดีก็สามารถประหยัดเงินได้เป็นแสน ลองคิดดูเงินเป็นแสนทำอะไรได้ตั้งหลายอย่าง ถ้าหากคิดคำนวณแล้วรีไฟแนนซ์ดีกว่าคุณจะไม่ทำเหรอ? หากคุณกำลังผ่อนบ้านเข้าปีที่ 4 ซึ่งอัตราดอกเบี้ยปรับขึ้นแล้วล่ะก็ลองทำตามเสต็ปนี้ดูเพื่อให้ชีวิตง่ายขึ้น

 

1. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ ลองนำอัตราดอกเบี้ยหรือโปรโมชั่นของบริการรีไฟแนนซ์ของแต่ละธนาคารมาคิดคำนวณค่าผ่อนชำระรายเดือนเพื่อเปรียบเทียบกับค่าผ่อนชำระเก่าแล้วเลือกธนาคารที่มีอัตราดอกเบี้ยน้อยที่สุด มีค่าผ่อนชำระน้อยที่สุดหรือข้อเสนออื่น ๆ ดีที่สุดขึ้นมา

ภาพจาก Freepik.com

 

2. ขอรายการสรุปยอดหนี้จากธนาคารเดิม เมื่อตัดสินใจเลือกธนาคารที่ต้องการรีไฟแนนซ์ได้แล้วก็ให้ทำการขอรายการเดินบัญชีและสรุปยอดหนี้เก่าจากธนาคารเดิมที่เคยทำเรื่องกู้ไว้เพื่อเตรียมไว้แนบประกอบกับเอกสารขอรีไฟแนนซ์

 

3. เตรียมเอกสารสำหรับขอรีไฟแนนซ์ เอกสารสำหรับขอรีไฟแนนซ์นั้นก็เหมือนกับเอกสารขอสินเชื่อที่เคยเตรียมตอนขอกู้บ้านมาแล้วนั่นเองซึ่งได้แก่ เอกสารยืนยันตัวตน เอกสารยืนยันรายได้ รายการเดินบัญชีธนาคารและเอกสารสำคัญเกี่ยวกับบ้านที่เราต้องการนำมาขอรีไฟแนนซ์ในครั้งนี้

ภาพจาก Freepik.com

 

4. รอผล หลังจากธนาคารได้รับเอกสารแล้วก็จะนำไปสู่ขั้นตอนการประเมินบ้านที่เรานำมาขอรีไฟแนนซ์ซึ่งตรงส่วนนี้จะมีค่าธรรมเนียมในการประเมินบ้านด้วยประมาณ 2,000-4,000 บาทแต่หากขอรีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิมก็อาจจะไม่เสียค่าใช้จ่ายในการประเมินก็ได้แล้วแต่นโยบายของแต่ละธนาคาร หลังจากผ่านการอนุมัติแล้วธนาคารก็จะแจ้งวงเงินที่อนุมัติซึ่งอยู่ที่ 95%-100% และบางครั้งก็มีส่วนเกินยอดหนี้ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นธนาคารจะทำเช็คแยกมา 2 ใบให้กับเจ้าของสัญญาเงินกู้เก่าและอีกใบที่เป็นยอดส่วนต่างมามอบให้กับคุณในวันจดจำนองและทำสัญญาใหม่

 

5. ติดต่อธนาคารเดิม เมื่อธนาคารใหม่อนุมัติแล้วให้ติดต่อธนาคารเดิมเพื่อขอใบสรุปยอด ณ.วันนั้นอีกครั้งและทำเรื่องนัดวันไถ่ถอนที่สำนักงานที่ดิน โดยธนาคารเดิมจะส่งยอดสรุปเดิมและแจ้งชื่อผู้รับมอบอำนาจของทางธนาคารไปทำนิติกรรมที่สำนักงานที่ดินแก่คุณ

ภาพจาก Freepik.com

 

6. ติดต่อธนาคารใหม่ ถัดมาเป็นการนัดหมายวันทำสัญญาและโอนทรัพย์ที่ใช้จำนองกับธนาคารใหม่ที่อนุมัติสินเชื่อรีไฟแนนซ์ให้กับเราโดยต้องนัดเป็นวันเดียวกับวันที่นัดธนาคารเดิมเอาไว้

 

7. ทำเรื่องโอน ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการทำเรื่องโอน ณ. สำนักงานที่ดินในเขตที่บ้านของเราตั้งอยู่ ควรเตรียมค่าธรรมเนียมในการถ่ายโอนมาให้เรียบร้อยโดยสามารถตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารใหม่ได้ เพื่อให้การดำเนินการในขั้นตอนนี้มีความรวดเร็ว เมื่อเราทำการถ่ายโอน ทำสัญญาเสร็จและมอบโฉนดให้กับธนาคารใหม่แล้วก็เป็นอันเรียบร้อย

 

การทำรีไฟแนนซ์บ้านจะช่วยให้คุณผ่อนชำระในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงและมีค่าใช้จ่ายรายเดือนที่ลดลงถ้าคิดคำนวณแล้วคุ้มกว่าก็จัดเลยรออะไร