การลงทุนไม่ว่จะลงทุนอะไรก็ตาม ก็หวังผลกำไรกันทั้งนั้น ยิ่งโดยเฉพาะการลงทุนในอสังหาฯที่มีความคงทน และมีมูลค่าเพิ่มทุกปี ไม่มีลด ก็ยิ่งหวังว่าจะได้กำไรงอกงาม แต่หากคุณลงทุนไม่ถูกช่วงเวลาก็จะทำให้คุณขาดทุนหรือไม่คุ้มทุนที่คุณลงไปได้เช่นกัน วันนี้เรามีบทความปัจจัยที่ทำให้ราคาขายคอนโดฯของคุณตกมาให้คุณได้ศึกษาก่อนว่า คุณมีปัจจัยเสี่ยงเรานี้หรือไม่ จะได้ป้องกันไว้ก่อน

 

1. รีบขายเพราะต้องใช้เงิน

เป็นกรณีที่เจ้าของอสังหาฯต้องการใช้เงินด่วน จึงจำเป็นต้องขายอสังหาฯที่มีอยู่ในมืออกไป โดยอาจจะไม่ได้คำนวณถึงผลตอบแทนที่จะได้รับว่ามีผลกำไร หรือ ขาดทุน เพราะหลักของการค้าขายจริงๆ จะต้องถือผลกำไรเป็นหลัก แต่หากผู้ขายเกิดภาวะร้อนเงิน หรือต้องการใช้เงิน อาจจะตัดสินใจขายในราคาที่ไม่คุ้มค่า

 

Tip ควรจะคิดคำนวณถึงความคุ้มค่าและผลกำไรก่อน ใจเย็น ๆ เพราะว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนไม่ว่าจะเป็นสินค้าประเภทไหนย่อมมีการเจรจาต่อรองอยู่ตลอด หากคุณใจร้อนรีบขายอาจได้ไม่คุ้มเสีย

2. ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ

ปัจจัยข้อนี้เป็นปัจจัยเหนือการควบคุม เพราะ ภาวะเศรษฐกิจจะเกิดขึ้นอย่างไม่แน่นอน หากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำทำให้คนมีกำลังซื้อลดลง ตรงข้ามกับที่ผู้ขายต้องการขายมากขึ้น การแข่งขันเรื่องการตัดราคาจึงเกิดขึ้นได้ เพื่อให้คอนโดฯของตัวเองขายออกเร็วขึ้นดังนั้น เพื่อไม่ให้คุณขาดทุนหรือราคาห้องชุดคอนโดตกต่ำ

 

Tip คุณควรศึกษา และ ติดตามข่าวเศรษฐกิจอยู่เป็นประจำ อีกทั้งต้องมีความรอบคอบและใจเย็นเพื่อรอช่วงเวลาในการขายที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ราคาขายที่ถูกใจ คุ้มค่ามากที่สุด

 

3. คนลงทุนในคอนโดฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ภาพจาก www.miraclepropertyphuket.com

 

เพราะปัจจัยด้านการคมนาคมที่รัฐบาลได้เริ่มโครงการรถไฟฟ้าสายใหม่มากขึ้น ทำให้มีผู้ลงทุนสร้างอสังหาริมทรัพย์คอนโดมิเนียมมากขึ้น โดยมากถึง 10,000 ยูนิตบริเวณรอบ ๆ เส้นทางรถไฟฟ้าสายใหม่ และมีระยะห่างจากกันเกิน 2 กิโลเมตรเท่านั้น ทำให้เกิดการแข่งขันทางตลาดสูง เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาห้องชุดคอนโดของคุณตกนั่นเอง เนื่องจากความต้องการซื้อไม่เพียงพอกับความต้องการขาย ทำให้ผู้ขายบางคนต้องตัดใจขายห้องชุดก่อนเวลา อันเนื่องมาจากการแข่งขันที่สูง ราคาก็จะตกลงไปเรื่อย ๆ
Tip : สร้างจุดเด่นของคอนโดฯคุณ เช่นมีการตกแต่งเพิ่มเติม แถมเฟอร์นิเจอร์ เพื่อเรียกลูกค้าที่สนใจเช่า หรือซื้อมากกว่าคู่แข่ง
 

4. ภาวะผูกพัน (ระยะเวลาการถือครอง)

กรรมสิทธิ์ของผู้ถืออสังหาริมทรัพย์ประเภทห้องชุดคอนโด มีอยู่ 2 รูปแบบด้วยกัน นั่นก็คือ

• แบบลีสโฮลด์ (Leasehold) หรือการถือครองกรรมสิทธิ์แบบเช่าซื้อ ส่วนมากจะเป็นโครงการคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่มีผู้พัฒนาโครงการเช่าระยะยาว มาจากเจ้าของที่ดินที่แท้จริง จะพบได้ในโครงการทำเลใจกลางเมือง ซึ่งโดยจะมีระยะเวลาในการเช่าประมาณ 30 ปี และสามารถต่ออายุกรรมสิทธิ์การถือครองได้เพิ่มอีก 30 ปี
• แบบฟรีโฮลด์ (Freehold) ผู้ซื้อมีสิทธิ์ขาดในการถือครองห้องชุดนั้น ๆ หลังจากที่โอนกรรมสิทธิ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาห้องชุดคอนโดตก ก็คือระยะเวลาในการถือครอง หากเป็นห้องชุดที่ถือครองในรูปแบบลีสโฮลด์ ยิ่งคุณถือครองยาวเท่าใด ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้ราคาห้องชุดคอนโดของคุณตกเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาสิทธิการเช่าที่ลดลง ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณถือครองห้องชุดคอนโดเป็นเวลา 15 ปีแล้ว นั่นเท่ากับว่าผู้ซื้อต่อจะมีสิทธิ์ในการใช้ประโยชน์ห้องชุด เพียง 15 ปี จาก 30 ปี ยังไม่รวมค่าเสื่อมสภาพที่จะทำให้ราคาห้องชุดตก ดังนั้น นักลงทุนอสังหาฯ ประเภทห้องชุดคอนโดฯ ส่วนมากจึงไม่ค่อยนิยมถือห้องชุดในแบบลิสโฮลด์นานเกินกว่า 2 – 3 ปี ทั้งนี้ ยังมีเรื่องของการขายห้องชุดระหว่างที่มีคนเช่าอยู่ด้วย ที่อาจจะทำให้ราคาห้องชุดคอนโดตกไปอีก

 5. ความไม่แน่นอนของทำเล

ภาพจาก thinkofliving.com

 

ทำเลที่ตั้งของอสังหาฯ เป็นปัจจัยหลักสำคัญของการซื้อขาย รวมไปถึงการเพิ่มหรือลดราคา หากซึ่งทำเลของคอนโดฯ ก็หมายถึงสิ่งแวดล้อมโดยรอบโครงการ ซึ่งหากเวลาผ่านไปที่ดินรอบโครงการอาจถูกแปรสภาพเป็นสิ่งอื่น ๆ อย่างเช่น กลายเป็นคอนโดมิเนียม โครงการใหม่ เป็นตึกสูง หรือพื้นที่โดยรอบกลายเป็นสภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม ก็อาจจะทำให้ราคาห้องชุดคอนโดตกลงได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าห้องชุดคอนโดของคุณจะอยู่ในยานธุรกิจก็ตาม แน่นอนว่าผู้ซื้อจะเริ่มคำนวณถึงความคุ้มค่า และบริเวณรอบ ๆ ว่าเหมาะสมกับเงินที่เสียไปหรือไม่ ทำเลจึงเป็นปัจจัยที่สำคัญในการเพิ่มและลดของราคาห้องชุดคอนโดของคุณนั่นเอง

 

จาก 5 ปัจจัยที่มีผลทำให้ราคาคอนโดฯของคุณไม่เป็นดั่งใจหวัง บางอย่างคุณอาจจะแก้ไขได้ด้วยตัวเอง ด้วยการศึกษาข้อมูลเยอะๆ ก่อนตัดสินใจ แต่บางอย่างคุณเปลี่ยนแปลงได้ยาก แต่ก็สามารถป้องกันได้โดยรู้รอบทันเหตุการณ์ ที่สำคัญก่อนตัดสินใจอะไรต้องอดทน และ ใจเย็น ทำอย่างมีสติ เพียงเท่านี้ก็โอเคแล้ว