หลังจากที่อาศัยในบ้าน หรือ อาคารเป็นเวลาระยะหนึ่ง ผนังบ้านก็จะเกิดคราบเชื้อรา หรือ ตะไคร่น้ำเป็นทางตามแนวน้ำฝน แนวท่อระบายน้ำ หรือ จุดวางเครื่องปรับอากาศ ทำให้ดูไม่สวยงาม หากต้องการจะทาสีผนังใหม่ก็จำเป็นต้องทำความสะอาดผนังให้หมดจดก่อน เพื่อว่าสีใหม่จะได้เก่ากับผนังอาคารได้อย่างดีเยี่ยม
เจ้าของอาคารบางท่านอาจคิดว่าการทำความสะอาดนั้น เพียงแค่ใช้น้ำล้างอย่างเดียวก็น่าจะเพียงพอ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การใช้น้ำนั้นสามารถล้างเชื้อราออกได้แค่พื้นผิวเท่านั้น แต่เชื้อของราจะยังฝังอยู่บนผนัง ทำให้โอกาสที่จะเกิดเชื้อรา ตะไคร่น้ำขึ้นมาใหม่ยังมีสูงอยู่
สาเหตุของเชื้อรา
- เกิดจากฝนังปูนบริเวณนั้นมีความชื้นสะสม ประกอบกับมีอุณหภูมิโดยรอบค่อนข้างสูงที่เราเรียกว่า ร้อนชื้น
- ฟิล์มสีไม่ทนเชื้อรา และตะไคร่น้ำ หรืออาจทาสีทัวฟิล์มสีเดิมที่มีปัญหาเชื้อรา และตะไคร่น้ำอยู่โดยไม่กำจัดก่อน
วิธีการล้างทำความสะอาดพื้นผนังที่มีเชื้อรา ตะไคร่น้ำที่ถูกต้อง
- ขูดลอกเชื้อราและตะไคร่น้ำออกให้หมด
- ขัดล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำ หากมีปริมาณเชื้อรามากให้ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อราช่วยขัดล้าง
- ทาน้ำยาฆ่าเชื้อราโดยการนำลูกกลิ้งไปจุ่มน้ำยาให้ชุ่ม แล้วกลิ้งลงบนผนังที่ทำความสะอาดแล้วจำนวน 1 เที่ยว โดยไม่ต้องล้างออก
- ทิ้งไว้จนแห้งสนิท และค่อยเริ่มทาสีทับผนัง
วิธีป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมา
หลังจากที่คุณกำจัดเชื้อรา คราบตะไคร่น้ำบนผนังบ้าน หรือ อาคารของคุณแล้ว สิ่งที่คุณควรทำต่อไปคือ การป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาอีก โดยมีวิธีป้องกันดังนี้
- ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบ้านของคุณมีอากาศถ่ายเทดี
- หาแหล่งต้นตอเชื้อราและพยายามกำจัดเชื้อราให้ลดลง ห้องครัวและห้องน้ำมักเป็นจุดที่พบเชื้อราได้มากที่สุด คุณจึงควรติดตั้งพัดลมระบายอากาศเพื่อลดความชื้น
- หาว่ามีท่อ ผนัง หรือหลังคารั่วตรงไหนบ้างและปิดรอยรั่ว
- ตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เสมอว่ารางน้ำหรือท่อน้ำที่บ้านไม่มีการอุดตัน รางน้ำหรือท่อน้ำที่ล้นเป็นสาเหตุหลักของการรั่วไหลของน้ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณหน้าต่างและประตู
หากคุณทำตามที่เราบอกรับรองว่า เชื้อรา และตะไคร่บนผนังจะไม่กลับมากวนใจคุณอีก หวังว่าบทความนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้คุณได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณแหล่งข้อมูล sipetchbangbon.blogspot.com