เทคนิคการ DCA หุ้นดีอย่างไร?

28 มิ.ย. 2560 15.39 น. | 1,542

          สำหรับผู้ที่มองหาวิธีการให้เงินทำงานและเติบโตออกดอกผลให้ชื่นชม อันดับแรกคงเป็นการเปิดบัญชีฝากประจำดอกเบี้ยสูง หรือออมเงินพร้อมเสี่ยงดวงไปด้วยกับสลากออมสิน สุดท้ายคือการลงทุนในหุ้นและตราสารหนี้ซึ่งเป็นวิธีการที่ให้ผลตอบแทนสูงซึ่งแน่นอนว่ามากับความเสี่ยงที่สูงด้วยเช่นกัน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ต้องกังวลเพราะมีทางเลือกให้กับนักลงทุนหน้าใหม่ในการกระจายความเสี่ยงไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุนรวมที่มีผู้คอยบริหารจัดการการลงทุนให้และอีกวิธีที่ได้รับความนิยมคือการ DCA หุ้นรวมถึงกองทุนด้วย

ภาพจาก Freepik.com

 

                DCA คืออะไร? DCA ย่อมาจาก Dollar cost averaging เป็นชื่อเรียกของการลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุนโดยลงทุนด้วยยอดเงินที่ตั้งใจนำมาออมในหุ้นหรือกองทุนนี้อย่างสม่ำเสมอ ยกตัวอย่างเช่น การนำเงิน 5,000 บาทไปลงทุนในหุ้นหรือกองทุนโดยไม่สนใจราคาต่อหน่วยในทุก ๆ เดือน ซึ่งแน่นอนว่าการซื้อด้วยยอดเงินเท่าเดิมในราคาต่อหน่วยที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาทำให้ได้หน่วยลงทุนไม่เท่ากันในแต่ละครั้ง แต่การ DCA หุ้นแบบนี้มีข้อดีอย่างไร?

                ข้อดีของการ DCA คือการลงทุนแบบนี้ช่วยกระจายความเสี่ยงในการลงทุน หลายคนเลือกที่จะใช้เวลาอยู่หน้าจอหุ้นและเลือกเวลาที่เหมาะสมที่จะทุ่มเงินที่มีเข้าซื้อหุ้นที่สนใจและพบว่าคุณ “ติดดอย” จะทำอย่างไรดีในเมื่อทุ่มเงินทั้งหมดไปแล้วในการเข้าซื้อและหากขายตอนนี้ก็ขาดทุนย่อยยับ

ภาพจาก Freepik.com

 

                การ DCA มีทุนน้อยก็ลงทุนได้และทำให้คุณลงทุนทีละเล็กละน้อยโดยไม่ต้องสนใจราคาต่อหน่วยมากนัก ซึ่งจุดนี้คุณอาจเลือกหุ้นที่คุณศึกษามาสักระยะแล้วมั่นใจว่าดีหรือกองทุนที่มีการบริหารจัดการที่ดี จากการเก็บสถิติของการลงทุนแบบ DCA จะทำให้เห็นว่าการถัวซื้อหุ้นในมูลค่าที่เท่ากันทุกเดือนและถือครองหุ้นที่มีไว้ระยะเวลาหนึ่งผลตอบแทนที่ได้รับจะเป็นบวกและมีราคาถัวเฉลี่ยต่อหุ้นต่ำกว่าราคาในตลาดหรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกว่า “กำไร” นั่นเอง ซึ่งการทำพอร์ทแบบ DCA ทำให้คุณไม่ต้องคอยเช็คราคาหุ้นแล้วยังสร้างวินัยในการออมได้ด้วย

ภาพจาก Freepik.com

 

                ข้อเสียของการ DCA คือเนื่องจากเป็นการออมหุ้นระยะยาวหากเราเลือกลงทุนในหุ้นผิดตัวที่ดูแล้วไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นแต่อย่างใดอาจนำคุณไปสู่การขาดทุนได้ การเลือกหุ้นหรือกองทุนที่จะลงทุนจึงสำคัญมาก แนะนำให้กระจายความเสี่ยงโดยการลงทุนในหุ้นหลาย ๆ ตัว และต้องถือระยะยาวจริง ๆ อย่ารีบร้อนขายเมื่อเห็นว่าราคาหุ้นขึ้นเพื่อรับผลตอบแทนที่มากขึ้น

                อย่างไรก็ดีการลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน