ทุกวันนี้ คนเรามักใช้เงินกันอย่างไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดีเสียก่อน อยากจะซื้อก็ซื้อ อยากจะใช้ก็ใช้ พอวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่ต้องใช้เงินขึ้นมากลับไม่มีเงิน ก็เลยมานั่งเสียใจคิดย้อนกลับไป แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา ดังนั้น ในระหว่างที่ชีวิตยังไม่เจอกับเหตุการณ์วิกฤตด้านการเงินก็ควรเตือนสติตนเองให้ออมเงินเพื่อเก็บไว้ใช้ในตอนที่จำเป็นจะดีกว่าไหม ถ้าคิดว่าดี งั้นลองมาดูข้อเตือนสติตนเองเพื่อการออมเงินเก็บไว้ใช้ในตอนที่จำเป็นในอนาคตกันดีกว่า
1. เผื่อว่าเจ็บป่วย
การเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น มันสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะเราเป็นมนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนต์ แล้วในการรักษาการเจ็บป่วยนั้นมันต้องใช้เงิน แล้วถ้าเราไม่มีเงินมันจะเป็นอย่างไร เราอาจจะต้องเจ็บป่วยต่อไปและตายไปในที่สุดเหรอ เพราะฉะนั้น ออมเงินไว้เถอะเผื่อว่าวันหนึ่งอาจเจ็บป่วยขึ้นมาจริงๆ
2. เผื่อว่าตกงานหรือขาดรายได้
ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ทำงานอยู่ดีๆ อาจจะถูกเลิกจ้างงานก็ได้ หรือทำมาค้าขายมันก็ไม่ได้ดีอยู่เสมอ ดังนั้น จะดีกว่าไหม ถ้าเราจะออมเงินเก็บไว้ใช้เผื่อว่าเราต้องตกงาน หรือจะดีกว่าไหมถ้าเราจะออมเงินไว้ใช้ในตอนที่เราค้าขายไม่ดี แน่นอนครับว่ามันต้องดีกว่าอย่างแน่นอน คงไม่มีใครอยากที่จะอดอยากปากแห้งแน่ๆ ดังนั้น ออมเงินเก็บเงินไว้บ้างเถอะครับ
3. เพื่อพ่อแม่
คนเราไม่ได้เกิดมาจากบ้องไม้ไผ่ ทุกคนล้วนมีพ่อมีแม่กันทั้งนั้น และที่โตมาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะพ่อแม่เป็นหลัก ไม่ใช่ตัวเราเอง แล้วเราไม่คิดที่จะตอบแทนบุญคุณเหล่านั้นเลยหรือไง หากไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู คุณก็ควรที่เก็บเงินเพื่อไว้ใช้ดูแลพ่อแม่ของคุณด้วย เหมือนที่ช่วงเวลาหนึ่งเค้าเคยได้เลี้ยงดูคุณจนกระทั่งเติบโตขึ้นมา
4. เพื่อลูก
หากคุณไม่มีลูกก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณมี คุณคิดจะรับผิดชอบชีวิตลูกของคุณแค่ไหน อยากให้เค้ามีชีวิตที่ดี อนาคตและการศึกษาที่ดีหรือไม่ หากคุณต้องการ คุณก็ควรที่จะเก็บเงินเอาไว้ เพราะอนาคตที่ดีของลูกคุณมันก็ต้องแลกมาด้วยเงินจำนวนไม่น้อยเช่นกัน
5. เพื่อบั้นปลายชีวิต
สังขารนั้นไม่เที่ยง วันนี้เราอาจจะทำงานไหวแต่แน่นอนเมื่อแก่ตัวไปมันคงทำอะไรไม่ไหวเหมือนเดิม แล้วจะดีกว่าไหมถ้าคุณมีเงินเก็บไว้ใช้ในตอนนั้น และยิ่งถ้าไม่มีลูกหลานมาคอยดูแลหรือไม่อยากให้เป็นภาระสำหรับลูกหลาน ก็ควรที่จะเก็บเงินตั้งแต่ตอนนี้เพื่อที่ว่าบั้นปลายชีวิต จะได้ไม่ต้องมาลำบาก
จากทั้ง 5 ข้อเตือนที่ได้กล่าวมานั้น คุณคงได้คิดอะไรมากขึ้นแน่ๆ และผมเชื่อเหลือเกินว่า คุณก็คงคิดได้แล้วว่า คุณต้อง “ออมเงิน” เพื่อชีวิตและอนาคตที่ไม่แน่นอนของตัวคุณเอง