ปาร์เก้เป็นพื้นไม้ซึ่งอยู่ได้ด้วยกาวที่ใช้ในการติดตั้ง ดังนั้นพื้นปาร์เก้จึงเป็นพื้นที่อ่อนแอต่อน้ำท่วม เพราะว่าหากพื้นปาร์เก้ถูกน้ำบ่อยๆแล้วพื้นไม้ก็จะเกิดอาการบวมพอง และกาวก็จะหลุดล่อนออกจากพื้นบ้านนั่นเอง วันนี้เรามีวิธีการซ่อมแซมไม้ปาร์เก้จากอาการบวมพอง
 

วิธีการซ่อมแซม: กรณีพื้นไม้ไม่หลุดล่อน แต่ผิวหน้าเสียหาย

ภาพจาก www.armstrong.com

 

1. เช็ดทำความสะอาดแล้วปล่อยทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 7-10 วัน เปิดหน้าต่างประตูให้อากาศถ่ายเทความชื้นออกไป
2. ทำความสะอาดพื้นผิวที่จะทา โดยต้องแน่ใจว่าแห้ง สะอาด ปราศจากน้ำมันและคราบไข
3. ใช้กระดาษทราย ขัดลอกฟิลม์สีเดิมที่เสื่อมสภาพออกไปให้หมดจนถึงเนื้อไม้

 

วิธีการซ่อมแซม: กรณีพื้นปาร์เก้ ล่อน บวมพอง

ภาพจาก www.floor-restoration.co.uk

 

หากพื้นปาร์เก้หลุด จำเป็นต้องรื้อออกมาให้หมด และรอจนกว่าคอนกรีตใต้พื้นปาร์เก้จะแห้งสนิท จากนั้นให้ทำการติดไม้ปาร์เก้กลับไปด้วยกาวลาเท็กซ์คุณภาพสูง เป็นตัวประสานปาร์เก้กับพื้นคอนกรีต ทิ้งบริเวณที่ติดพื้นไม้ปาร์เก้ใหม่ให้แห้งอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนทำการขัด

1. ขัดตกแต่งไม้ให้เรียบ รวมทั้งบริเวณที่มีฟิลม์สีเดิมอยู่ให้ขัดจนถึงเนื้อไม้เดิม (ถ้ามีรอยแตกหรือเสี้ยนไม้ให้ทำการอุดโป้วด้วย Acrylic Filler แล้วตกแต่งสีด้วยฝุ่นจีน)
2. ขัดลอกฟิลม์สีเดิมที่เริ่มเสื่อมสภาพออกให้หมดจนถึงเนื้อไม้ด้วยการดาษทราย

 

ขั้นตอนการทาสีลงบนพื้นไม้ปาร์เก้

1. ทาน้ำยารองพื้นไม้ 1 เที่ยว ทิ้งไว้ให้แห้งประมาณ 1 ชั่วโมง
2. ทาน้ำมันเคลือบแข็งพื้นไม้จำนวน 3 เที่ยว (สัดส่วนการผสมทินเนอร์กับตัวยูรีเทนของแต่ละเที่ยวไม่เท่ากัน สามารถสอบถามทางร้านขายวัสดุให้ทางร้านแนะนำได้) ที่สำคัญต้องรอให้น้ำมันเคลือบที่ทาแต่ละเที่ยวแห้งก่อนแล้วค่อยทาซ้ำ รอประมาณ 3-5 ชั่วโมงต่อเที่ยว
3. ก่อนการทับในแต่ละเที่ยว ควรขัดด้วยกระดาษทรายเบอร์ละเอียด เพื่อเพิ่มการยึดเกาะในแต่ละชั้น

เทคนิคสำคัญ : สำหรับงานปาร์เก้ หากยังมีความชื้นอยู่ อย่าเอาน้ำมัน แลกเกอร์ หรือแว็กซ์ ไปทาทับตอนที่ปาร์เก้ชื้นอยู่ เพราะสารเหล่านั้นจะไปเคลือบผิวไม้ทำให้ความชื้นในเนื้อไม้ไม่ระเหยออกมา

 

 

จากวิธีการซ่อมแซมที่ทางเราได้นำเสนอไป ก็หวังว่าจะช่วยให้คุณมีพื้นไม้ปาร์เก้ที่สวยเหมือนใหม่อีกครั้ง ที่สำคัญอย่าลืมว่าต้องใจเย็นอย่าให้พื้นไม้ชื้น ต้องรอให้แห้งก่อน เพียงเท่านี้บ้านคุณก็จะมีพื้นไม้สวยๆไว้ต้อนรับแขกแล้วล่ะ

 

 

ขอบคุณแหล่งข้อมูล  sipetchbangbon.blogspot.com