ทำความรู้จักกับกองทุนรวมแบบ Index Fund ผู้ช่วยของนักลงทุนระยะยาว 

20 มิ.ย. 2560 16.18 น. | 839

          สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนและไม่มีเวลามากนัก แนะนำให้มองหาผู้ช่วยในการลงทุนอย่างกองทุนรวมซึ่งนำเงินลงทุนของเราไปจัดสรรตามนโยบายของแต่ละกองทุน ซึ่งกองทุนรวมแบบ Index Fund หรือ Passive Fund คือกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนโดยอ้างอิงดัชนีมาตราฐานของตลาดโดยมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนตามดัชนีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีของตลาดมากที่สุด และนอกจากการลงทุนในดัชนีสินทรัพย์ประเภทหุ้นแล้ว ยังลงทุนในดัชสินทรัพย์ประเภทตราสารหนี้ และการลงทุนในดัชนีหุ้นแบบแยกอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมอาหาร อุตสาหกรรมด้านไอที อีกด้วย ซึ่งกองทุนรวมแบบ Index Fund โดยส่วนใหญ่จะไม่ลงทุนกับหุ้นอื่นนอกเหนือจากที่แสดงในอันดับ 50-100 ของดัชนีหุ้น แต่ก็มีกองทุนรวมแบบ Index Fund หลายกองทุนที่ไม่ลงทุนในหุ้นตามดัชนีมาตราฐานบางตัวและลงทุนกับหุ้นที่มีน้ำหนักมากกว่าในตลาด

 

ภาพจาก Freepik.com

 

ข้อดีของกองทุนรวมแบบ Index Fund

                กองทุนรวมแบบ Index Fund หรือ Passive Fund มีนโยบายการลงทุนเชิงรับจึงไม่ต้องจัดหานักลงทุนที่เชี่ยวชาญมาจัดสรรเงินทุน และจัดสรรการลงทุนในหุ้นโดยอ้างอิงตามดัชนีมาตราฐานรวมถึงใช้โปรแกรมช่วยคำนวณหรือ Robot ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและส่งผลให้ค่าธรรมเนียมของกองทุนรวมแบบ Index Fund ต่ำกว่ากองทุนรวมแบบ Active Fund นอกจากนี้การลงทุนแบบ Index Fund ยังช่วยกระจายความเสี่ยงให้นักลงทุนโดยลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงตามดัชนีมาตราฐานด้วย

ภาพจาก Freepik.com

 

ข้อเสียของกองทุนแบบ Index Fund

            หากคุณกำลังมองหาการลงทุนในหุ้นที่สร้างกำไรมหาศาลหรือโดดเด่นกว่านักลงทุนอื่น ๆ การลงทุนในกองทุนรวมอย่าง Index Fund ไม่ใช่คำตอบแน่นอน เพราะผลกำไรที่ได้รับนั้นจะไม่ต่างกับค่าเฉลี่ยของดัชนีมาตราฐานสักเท่าไหร่ และหากค่ามาตราฐานติดลบมูลค่าหน่วยลงทุนของคุณก็จะติดลบตามไปด้วย แต่หากคุณสามารถรออย่างใจเย็นได้นานพอคุณก็จะยังได้กำไรเพราะจากการสำรวจข้อมูลผลตอบแทนในการลงทุนในกองทุนรวมแบบ Index Fund ให้ผลกำไรโดยรวมดีกว่าแบบ Active Fund ในระยะยาว

                นอกจากนี้คุณไม่สามารถเลือกได้ว่าจะลงทุนในหุ้นตัวที่คุณสนใจ หรือเลือกไม่ลงทุนในหุ้นที่คุณไม่ชอบได้เพราะกองทุนรวมแบบ Index Fund จะจัดสรรการลงทุนตามดัชนีมาตราฐานซึ่งอาจรวมถึงลงทุนหุ้นที่คุณไม่รู้จักเข้าไปด้วยก็ได้

ภาพจาก Freepik.com

 

สิ่งที่ควรนำมาพิจารณาในการเลือกกองทุนรวมแบบ Index Fund

            แน่นอนว่าอันดับแรกคือผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ต่าง ๆ ที่รวบรวมข้อมูลการสำรวจเอาไว้ ว่ามีผลตอบแทนที่ดีและมีความสามารถในการเลียนแบบตลาดดัชนีได้ใกล้เคียงหรือไม่ โดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Tracking Error (TE) ซึ่งควรเลือกลงทุนในกองทุนรวมที่มีค่า TE ที่ต่ำเพราะแสดงว่ากองทุนนี้มีประสิทธิภาพในการลงทุนโดยอ้างอิงดัชนีมาตราฐาน เนื่องจากกองทุนรวมนี้มีอัตราผลตอบแทนเบี่ยงเบนไปจากดัชนีที่อ้างอิงในอัตราที่ต่ำ

                ถัดมาคือค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่กองทุนเรียกเก็บซึ่งประกอบด้วย ค่าธรรมเนียมการจัดการรายปี ค่าธรรมเนียมนายทะเบียน ค่าธรรมเนียมผู้ดูแลผลประโยชน์ ค่าที่ปรึกษาและอาจมีค่าธรรมเนียมการซื้อหน่วยลงทุนด้วยซึ่งควรศึกษาให้ละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน โดยควรเลือกกองทุนที่มีค่าใช้จ่ายไม่สูงนักเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เป็นส่วนต่างมากที่สุด

                ทั้งนี้การลงทุนมีความเสี่ยงควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจนะ