ป้องกันตัวเองก่อนที่จะเริ่มเป็นหนี้

6 มิ.ย. 2560 15.27 น. | 1,849

            เราทุกคนต่างรู้ดีว่าการเป็นหนี้นั้นไม่ใช่เรื่องน่ายินดีซักเท่าไหร่ ยิ่งในปัจจุบันนั้นความสะดวกสบายสำหรับการจ่ายเงินมีอยู่มากทีเดียว ทั้งออนไลน์ การรูดบัตรเครดิตเป็นต้น ทุกคนจะอาจมองว่าการใช้เงินอนาคตนั้นมีความสะดวกและรวดเร็วกว่าที่เราจะเอาเงินสดมาใช้ ซึ่งนั่นแหละจะเป็นสัญญาณของคำว่าหนี้ที่เกิดขึ้น จริงๆแล้วเราสามารถที่จะควบคุมความต้องการของเราได้ก่อนที่เราจะมีคำว่า หนี้ เพิ่มเข้ามาในชีวิต รู้ทันก่อน ก็ปลอดหนี้อย่างสบายใจ

            ดังนั้นเราลองมาเช็คกันดูว่า ก่อนที่เราจะมีคำว่าหนี้ เกิดขึ้น เราต้องป้องกันตัวเองจากอะไรบ้าง

 

1. เช็ครายจ่ายของเราและควบคุมรายรับ

เมื่อเรามีรายรับเข้ามา เราต้องจัดการกับการแบ่งเป็นส่วนๆสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะต้องใช้ในแต่ละวัน ค่าบ้าน ค่างวดรถ ค่าน้ำ-ค่าไฟ ค่าใช้จ่ายระหว่างวัน ค่าโทรศัพท์ รวมไปถึงเงินเก็บต่างๆ และแต่ละคนจะมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน บางคนอาจจะไม่ต้องจ่ายค่าบ้าน ไม่ต้องจ่ายค่างวดรถ ซึ่งนั่นก็มีเงินในการใช้จ่ายอย่างอื่นได้มากกว่าคนอื่นๆ

 

2. ฝึกความอดทนต่อความต้องการ

โดยส่วนใหญ่เราจะมีความต้องการที่จะซื้อของใช้อย่างมากมาย เพราะสิ่งยั่วยุความอดทนต่อการใช้เงินนั้นมีมากจนล้น เช่น เสื้อผ้า อาหารการกิน เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ รวมไปถึงเครื่องครัว และที่สำคัญที่สุดโดยเฉพาะสาวๆคือ เครื่องสำอางนั่นเอง เพราะสาวๆในปัจจุบันหันมาดูแลตัวเองกันมากขึ้น และของอุปโภคในส่วนนี้ก็มีมากจนอยากจะเลือกสรรมันทุกอย่าง แน่นอนว่ามันก็จะทำให้เงินเราลดหายไปตามด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราต้องเลือกสิ่งที่จำเป็นที่สุดก่อนว่าตัวไหนสามารถที่จะใช้ได้นาน ใช้ได้ดีที่สุด ส่วนเรื่องอาหาร หากเราลดการกินบุฟเฟ่ต์หรือการเข้าร้านคาเฟ่ ทานของหวานให้ได้อาทิตย์ละครั้งหรือ สองอาทิตย์หนึ่งครั้งก็จะสามารถมีเงินเหลือเก็บได้อย่างแน่นอน

 

 3. ไม่ควรทำบัตรเครดิตเกิน 1-2 ใบ 

ถ้าหากเราไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงได้จริงๆเกี่ยวกับบัตรเครดิต เราก็สามารถที่จะควบคุมในการใช้ได้เหมือนกัน เพราะเดี๋ยวนี้ธนาคารต่างๆจะออกโปรโมชั่นกาใช้บัตรมาอย่างมากมายและมันดีไปซะทุกคน จนเรารู้สึกว่าต้องทำ บัตรนี้ลดได้อย่างหนึ่ง บัตรนี้ลดได้อย่างหนึ่ง ดังนั้นการศึกษาในแต่ละบัตรก่อนที่จะทำการสมัครไปมันก็เป็นการสแกนความเป็นหนี้ของเราได้อย่างดี เพราะในบางธนาคารก็รวมโปรโมชั่นต่างๆไว้ในบัตรเดียวก็มี ดังนั้น เราก็เลือกตัวบัตรไหนใช้คุ้มมากกว่าแล้วเลือกที่จะสมัครแค่ใบเดียว ป้องกันความเสี่ยงเป็นหนี้ที่เพิ่มพูนมากขึ้น

 

4. ไม่ควรใช้บัตรเครดิตในการไปเที่ยวต่างประเทศ

เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เพราะทุกคนจะคิดว่าการจ่ายบัตรเครดิตเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกในการพกเงินไปที่ละคราวมากๆ แต่บอกเลยค่ะว่าคิดผิดไปครึ่งหนึ่ง จริงอยู่ที่ว่าสะดวกแต่ถ้าลองนึกดีๆแล้ว มันเป็นภัยตัวร้ายในการที่เราจะเป็นหนี้อย่างไม่น่าให้อภัยเลยค่ะ เพราะนอกจากจะเจอธรรมเนียมอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว อาจจะเจอหนี้กองโตที่เรารูดในแต่ละครั้งด้วย ถ้าหากการที่เราจะพกเงินสดในคราวมากๆในการไปเที่ยวต่างประเทศ เราลองที่จะเลือกจะเอาเงินสดเข้าบัญชีแล้วเปิดเป็นบัตรเดบิตแทน อาจจะเสียค่ารูดนิดหน่อย แต่ซื้อได้ครั้งเดียวแล้วจบ ไม่ต้องมาเจอปัญหาบิลค่าใช้จ่ายตามมาทีหลัง

 

5. จัดสรรแบ่งเงินในแต่ละส่วน

เมื่อเราได้เงินเดือนมาแล้ว ก็ต้องมาแบ่งส่วนที่เราจะต้องใช้ให้อย่างเหมาะสม ซึ่งค่าใช้จ่ายของแต่ละคนจะมีไม่เท่ากัน บางคนอาจจะไม่เสียค่าบ้าน บางคนอาจจะไม่เสียค่างวดรถ หรือบางคนก็เสียทั้งสองอย่าง ดังนั้น หากเงินเดือนมี 100% ค่าใช้จ่ายทั้งค่าบ้านค่างวดรถแบ่งมา 55% ค่าใช้จ่ายต่างๆ 25% ค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน 10%  เงินเก็บ 5% และเงินในการท่องเที่ยว 5% หากเราจัดสรรได้แบบนี้ เราก็จะสามารถใช้เงินได้อย่างคุ้มค่าและไม่เป็นหนี้ให้กวนใจ

 

6. การยืมเงินผู้อื่น

หากมีความจำเป็นจริงๆ เมื่อเราแบ่งส่วนของเงินเดือนเราแล้ว แต่มันไม่พอ การยืมผู้อื่นจึงเป็นทางออกอีกทางจะทำให้เราหมุนการเงินของเราได้ แต่มันอาจจะไม่ใช้ทุกครั้งที่เราจะได้ ดังนั้น ทางเลือกนี้จึงเป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆสำหรับคนที่ไม่อยากเป็นหนี้ของบัตรเครดิต เมื่อได้ขอยืมเงินได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พ่อแม่ หรือคนรู้จัก และเมื่อเรามีเงินพอที่จะใช้ ควรรีบเอาไปคืนให้เร็วที่สุด เพราะไม่งั้นมันจะกลายเป็นว่า เราจะเสียทั้งความรู้สึก และเสียทั้งความเชื่อใจจากคนๆนั้นด้วย

 

และนี่เป็นการดูแลตัวเองจากการใช้เงินให้ปลอดจากความเป็นหนี้ขั้นต้น เป็นขั้นตอนสุดเบสิคที่ใครๆต่างก็รู้และเข้าใจว่าหากเมื่อเราจัดสรรการใช้เงินดีๆแล้ว นอกจากจะไม่ทำให้เงินหนี้ ยังสามารถเข้าชนะใจตัวเองและฝึกความเป็นระเบียบให้การวางแผนใช้เงินอีกด้วย อีกทั้งเราสามารถที่จะบอกต่อคนอื่นหรือคนในครอบครัวที่มีภาวะเสี่ยงในการใช้เงิน เพื่อให้เป็นความรู้แก่พวกเขาได้อีกทาง การเป็นหนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่มันเป็นการทำลายนิสัยของเราในการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย การเป็นหนี้มันบ่งบอกอะไรได้อย่างหลาย เช่น หากเราเป็นหนี้ นั่นหมายความว่า เราเริ่มที่จะไม่มีระเบียบในการใช้เงินที่เรามีอย่างเหมาะสม หากเริ่มเป็นหนี้ นั่นก็หมายถึง เราเริ่มที่จะใช้เงินเกินตัวโดยไม่รู้ว่ามันจะทำร้ายตัวเราเองในภายหลัง ดังนั้น การที่เราเริ่มป้องกันตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ ก่อนที่มันจะสายไป และรู้จักการใช้เงินให้ถูกทาง เราก็จะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขโดยไม่ต้องกังวลว่า จะมีบิลบัตรเครดิตมาเคาะประตูบ้านให้เราสะดุ้งโหยงจนเสียสุขภาพจิตอีก