“อีกไม่กี่วันจะสิ้นเดือนแล้ว แต่จะใช้เงินยังไงให้ถึงสิ้นเดือนล่ะ” นี่คือประโยคที่ใครหลายๆคนคิดอยู่ในใจระหว่างกลางเดือนที่ก้มลงมองกระเป๋าเงินหรือนิ้วตัวเองที่กำลังกดเช็คบัญชีในตู้ ATM และความกังวลจะเพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆเวลาเราซื้อของใช้ ซื้อของทานในช่วงนั้นจนลืมไปเลยว่า เราจะสามารถมีเงินพอถึงสิ้นเดือนหรือไม่ ความต้องการของเรามันไม่สามารถที่จะห้ามกันได้ แต่มันสามารถที่จะควบคุมไม่ให้เกินลิมิทได้ ดังนั้น ทางออกสำหรับเรื่องนี้ มีอะไรบ้าง

• ไม่ควรซื้อของเกินความจำเป็น

การซื้อของความจำเป็นนั้นมันเป็นตัวการร้ายกาจที่สุดสำหรับการบริหารเงินเลยทีเดียว ยิ่งโดยเฉพาะสาวๆแล้วนั่น สิ่งที่ทำให้เงินรั่วไหลมากที่สุดคือ เครื่องสำอางและเสื้อผ้า การเลือกซื้อเครื่องสำอางสำหรับสาวๆจะไม่ได้หยุดแค่เพียงหนึ่งชิ้นหรือสองชิ้น แต่จะซื้ออย่างหนึ่งในปริมาณสองชิ้นหรือสามชิ้น แล้วแต่ประเภท ซึ่งนั้นก็คือการเลือกซื้อของเกินความจำเป็น เรื่องเสื้อผ้า หากถ้ายังไม่ได้เก่าจนสีซีด เราไม่ควรจะซื้อเพิ่มเติมจนเกินไป

 

• ไม่ควรกินอาหารประเภทบุฟเฟ่ต์หรืออาหารตามร้านคาเฟ่มากจนเกินไป

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทานอาหารบุฟเฟ่ต์ หรือการเข้าร้านคาเฟ่ต่างๆก็เป็นการผลาญเงินไปอย่างมากมายไม่รู้ตัว นับในปัจจุบันร้านอาหารบุฟเฟ่ต์หรือร้านคาเฟ่เกิดขึ้นมาเยอะมากมาย ซึ่งเราสามารถที่จะเลือกทานได้อย่างหลากหลายมากขึ้น แต่นั้นก็ทำให้เราเสียเงินมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นก่อนที่เราจะมีเงินใช้ไม่ถึงสิ้นเดือน เราควรจะลดการทานอาหารประเภทนี้ให้ลดน้อยลง หรืออาทิตย์ละครั้ง หรือสองอาทิตย์หนึ่งครั้ง เพื่อเป็นการให้รางวัลกับตัวเองจากความเครียดจากงานที่ได้ทำมาตลอดทั้งวัน ซึ่งหากทำได้แบบนี้ เราก็จะสามารถมีเงินเหลือใช้ถึงสิ้นเดือนแน่นอน

 

• ค่าเดินทาง

หลายคนสงสัยว่าค่าเดินทางมันจะช่วยได้ยังไง จริงๆแล้วหลายคนมองข้ามเรื่องนี้ไปทั้งๆที่เรื่องนี้มันก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ทำให้เงินหายไปอย่างน่าเหลือเชื่อ การเดินทางในปัจจุบันมีมากมายและหลากหลายวิธี ทั้งรถเมล์ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน แท็กซี่ รวมไปถึงมอเตอร์ไซต์รับจ้าง แต่ถึงแบบนั้นทุกคนมักจะเลือกความสะดวกสบายกับการเดินทางมากกว่าเลี่ยงการตื่นเช้าและไปทำงานแบบรถเมล์ ซึ่งพอเข้าจริงๆการขึ้นรถเมล์นี่แหละเป็นทางเลือกการประหยัดเงินมาก ซึ่งบางครั้งการขึ้นรถเมล์หลายต่อยังไม่เท่ากับขึ้นรถไฟฟ้าหนึ่งรอบเลย หากเราอยากจะเซฟเงินให้ใช้ถึงสิ้นเดือน การคำนวณค่าใช้จ่ายในการเดินทางเลือกที่จะตื่นเช้าซักหน่อย และเลือกวิธีการนั่งรถเมล์ไปทำงาน ก็สามารถมีเงินใช้ถึงสิ้นเดือนแบบเหลือเฟือเช่นกัน

 

• ลดการเที่ยวกลางคืน

หลายคนสงสัยว่าทำไมเที่ยวกลางคืนถึงทำให้เงินนั้นหมดไว เลิกสงสัยไปได้เลยคะว่าเพราะอะไร อย่างแรกเลย การไปเที่ยวกลางคืนนั้นทำให้เราต้องเสียค่าเครื่องดื่ม ค่าอาหารและบางที่อาจจะต้องเสียค่าเปิดเพิ่มอีกในกรณีที่เราพกเครื่องดื่มไปเอง และแม้ว่าจะไปกับเพื่อนในปริมาณคนมากกว่า 6 คนขึ้นไป จริงอยู่ที่การเฉลี่ยค่าใช้จ่ายอาจจะถูกลง แต่ถ้าหากไปบ่อยครั้งมากจนเกินความจำเป็น จากที่ค่าใช้จ่ายมันถูก มันจะกลับกลายเป็นว่า เราเสียในส่วนนี้บ่อยจนไม่มีเงินเหลือใช้ต่อจนสิ้นเดือน ดังนั้น หากเราควบคุมในส่วนนี้ ไปแบบสองอาทิตย์หนึ่งครั้ง ก็จะช่วยเซฟเงินในกระเป๋าเราได้มากโขทีเดียว

 

• ลดการซื้อเครื่องใช้อำนวยความสะดวก

ยอมรับเลยว่าผู้คนในโลกปัจจุบันชอบความทันสมัยและความก้าวหน้าของเทคโนโลยี เครื่องใช้ไฟฟ้า รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือที่ออกมาล้นตลาด ทำให้เงินในกระเป๋าเราทำงานอย่างไม่มีวันสิ้นสุด นวัตกรรมสิ่งของเครื่องใช้มันให้ความต้องการเราเพิ่มมากขึ้น และอยากที่จะซื้อให้ชีวิตเราสะดวกสบาย แต่นั่นก็หมายความว่า เราต้องเอาเงินแลกความสะดวกสบายนั้นมาด้วย เช่น โทรศัพท์มือถือที่ออกรุ่นมาใหม่เรื่อยๆและทำให้เราอยากซื้อใช้ ทั้งๆที่เครื่องเก่าของเราก็ยังคงใช้ได้อยู่ โน้ตบุ๊ค กล้องถ่ายรูปรวมถึงเลนส์ ซึ่งนั้นก็บ่งบอกได้ว่า ความต้องการของเรามันไม่ทางสิ้นสุด ดังนั้น หากว่าสิ่งของใดที่เรายังสามารถใช้ได้อยู่ เราไม่ควรที่จะซื้อเพิ่มอีก

 

• หนังสือ และแมกกาซีนต่างๆ

“ทำไมเราจะเสียเงินเพื่อหนังสือไม่ได้” วลีของหนอนหนังสือที่ตั้งคำถามจากคนอื่น จริงอยู่ที่หนังสือมันไม่ได้ทำให้การเสียเงินศูนย์เปล่า เพราะเราซื้อ เราก็อ่าน แต่ถ้าซื้อในปริมาณมากๆแล้วอ่านไม่หมด อ่านไม่จบ ก็ถือว่าเป็นการสิ้นเปลืองอย่างหนึ่งค่ะ สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือ การซื้อหนังสือครั้งละมากๆแต่กลับอ่านไม่หมด และถูกลืมทิ้งไว้อยู่ในห้องเฉยๆก็มีเช่นกัน พอมีหนังสือออกมาใหม่ก็ซื้อมาอีก ซึ่งก็แปลว่า เราทิ้งเงินจำนวนไม่น้อยไว้ในห้องโดยที่เราไม่ได้สนใจอะไรเลย ดังนั้น การเลือกซื้อหนังสือหรือนิตยสาร ควรซื้อเท่าที่เราอยากอ่าน ไม่ควรจะซื้อครั้งละมากๆแล้วมาทิ้งไว้จนลืมไปเลยว่า เรื่องนี้เราซื้อแล้วหรือยัง

 

 

และนี่ก็เป็นตัวอย่างทางออกเล็กๆน้อยๆที่เรายกขึ้นมาให้เห็นภาพว่า มันมีบางอย่างที่ทำให้เงินเราในแต่ละเดือนหายไปโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยว่า การใช้จ่ายในแต่ละวันนั้นกำลังทำให้เราชักหน้าไม่ถึงหลัง โดยเฉพาะเหล่ามนุษย์เงินเดือน ทุกคนจะรู้ดีว่า การใช้เงินแบบเดือนไม่ถึงเดือนมันมีความโหดร้ายแค่ไหน และนี่เองจึงทางเลือกการป้องกันที่เรานำเสนอไปให้เป็นแนวทางแก้ไขอย่างง่ายๆที่ทุกคนสามารถทำได้ และบอกต่อให้กับคนอื่นๆทำตามได้อีกเช่นกัน