10 วิธีสุดเจ๋งสำหรับการออมเงินในวัยเรียน

18 มิ.ย. 2560 16.24 น. | 2,926

            การออมเงินนั้น เราสามารถที่จะทำได้ตั้งแต่เด็ก ไม่ว่าจะตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงวัยทำงาน เราจะโดนปลูกฝังเสมอให้เก็บหอมรอมริบ เผื่อไว้ใช้ในภายภาคหน้าและในยามจำเป็น การออมเงินทุกคนจะคิดว่าเป็นเรื่องยาก เพราะการที่เห็นเงินบางส่วนถูกตัดออกไปอยู่ในส่วนที่เราไม่สามารถจะนำมาใช้ได้ มันจะรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่นั้นเป็นการฝึกความอดทนของเรา เพื่อไม่ให้เตลิดในการใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย ในวัยทำงาน คนเรามักจะแยกส่วนเงินเก็บจากเงินเดือน 5-10% แต่ถ้าเป็นในวัยเรียนล่ะ? เราจะสามารถเก็บเงินได้เหมือนคนทำงานไหม คำตอบที่ได้คือ แน่นอน! คุณสามารถทำได้ และสามารถจะเก็บเงินได้มากกว่าคนที่ทำงานอีกด้วย

            วันนี้เราจะมานำเสนอวิธีการออมเงินสุดเจ๋งให้กับทุกคนได้ลองนำไปทำตามกัน เริ่มจาก

1. แยกใส่ขวดโหล

การเก็บเงินในขวดโหลมันแปลกตรงไหน? ใช่! มันไม่ได้แปลก แต่ด้วยความอยากที่จะเห็นเงินเพิ่มพูนมากขึ้นจนเต็มขวดโหล มันจะเป็นการกระตุ้นแรงเก็บเงินเราได้เป็นอย่างดี ยิ่งถ้าเป็นขวดโหลแบบใส และเราแปะหรือเขียนของที่อยากได้แปะที่หน้าขวดแล้ว การเก็บเงินของเราจะยิ่งสนุกมากยิ่งขึ้น

 

2. เก็บในภาชนะที่ไม่สามารถเปิดออกได้

ถูกต้อง! อ่านไม่ผิดคะ การเก็บเงินในสิ่งของที่เราไม่สามารถจะเปิดหรือแคะออกมาได้ จะทำให้เราฝึกความอดทนได้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากเราจะใช้ เราจะต้องทำลายของนั้นด้วยการทุบให้แตก ซึ่งจะทำให้เราเสียของในการเก็บเงินไปอีกแทนที่จะได้ทุบทีเดียวตอนเราเก็บเงินได้เต็มกระบอกแล้ว หรืออีกหนึ่งทางเลือก คือการทำกระบอกไผ่มาเก็บเงิน ก็เป็นทางเลือกที่ดี ซึ่งแบบนั้น การเอาเงินมาใช้จะต้องตอกให้เป็นส่วนๆก่อนที่จะได้นำเงินออกมา

 

3. เสียบเงินแบงค์ตามหนังสือ

นี่เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบลืมของ บางครั้งเรามักจะลืมไปเลยว่า เราได้เอาอะไรไว้ตรงไหนบ้าง และจะมาเจอก็ต่อเมื่อความอยากที่จะอ่านหนังสือเท่านั้น ยกตัวอย่าง หากเราเลือกทางนี้ในการเก็บเงิน เราควรจะแบ่งโซนชั้นหนังสือเพื่อเก็บเงิน ให้เลือกเป็นหนังสือที่เราไม่ค่อยได้หยิบอ่าน เพราะถ้าเกิดเราเลือกที่เราชอบหยิบมาอ่าน พอเราเจอเงิน เราก็จะนำไปใช้อีก ดังนั้น ควรเลือกหนังสือที่เราไม่ชอบหรืออ่านน้อยให้อยู่ในชั้นเดียวกัน และในทุกๆวันก็เสียบเงินในแต่ละหน้าจะ 20 หรือ 50 บาทก็ได้แล้วแต่ว่าเราอยากจะเก็บมากน้อยแค่ไหน และอย่าลืมโน้ตเล็กๆแปะไว้ที่โต๊ะหนังสือหรือปฎิทินด้วยว่า วันเวลาไหนที่จะเอาเงินส่วนที่เสียบไว้ในหนังสือไปฝากธนาคาร

 

 4. เก็บแบงค์ 50 บาท 

นี่เป็นวิธีเบสิคที่สุดในการออม เพราะแบงค์ห้าสิบบาทนั้นเป็นแบงค์ที่นานๆจะโผล่มาอยู่ในกระเป๋าเงินซักครั้ง จึงทำให้การเก็บเงินเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุด เมื่อเราเจอแบงค์ห้าสิบบาทเราก็แยกมันออกมาจากช่องเงินที่ใช้อยู่ประจำ หรือเก็บไว้ในกระเป๋าเศษเงินเล็กๆแยกไว้ต่างหากจะได้ไม่เผลอหยิบออกมาใช้

 

5. กระปุกออมสินลิ้นชัก

การเก็บเงินจะได้ไม่รู้น่าเบื่อจนเกินไป เราลองหาของแปลกๆมาลองใช้ในการออมดู เช่นกล่องลิ้นชักเล็กๆที่แบ่งออกเป็น 3-4 ชั้นก็ว่ากันไป และจากนั้นเราก็ทำการแยกเงินที่เราเหลือใช้ในแต่ละวัน ว่ามีเหรียญหรือแบงค์อะไรบ้าง จากนั้นก็ทำการกำหนดชั้นของลิ้นชักว่าชั้นไหนใส่อะไร และเขียนป้ายกำกับไว้อย่างชัดเจนจะได้ไม่หลงชั้นกัน อีกอย่าง ควรเก็บไว้ในที่คนไม่เห็น เพราะกระปุกออมสินลิ้นชักนี้ มันเปิดง่ายต่อการโดนขโมยซะจริงๆ

 

6. จ่ายค่าผ่านทางห้องน้ำ

นี่อาจจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้การเก็บเงินให้มีความสนุกมากขึ้น เราอาจจะเห็นจากห้างสรรพสินค้าบางแห่งที่มีการให้จ่ายเงินก่อนเข้า ดังนั้น เราจึงเลียนแบบวิธีนี้ในการเก็บเงินของเราดูบ้าง วางกระป๋องหรือแก้วน้ำซักหนึ่งใบหน้าห้องน้ำ และก่อนจะเข้าไปใช้งานก็หยอดเสียค่าผ่านทางซักหน่อยให้รู้สึกถึงความการใช้บริการสรรพสินค้า แต่ในส่วนของเงินนั้นก็แล้วแต่เราว่าอยากจะหยอด 2 บาท 5 บาท หรือ 10 บาทก็ว่าไป

 

7. เสียเงินให้ถุงออมสินเวลาพูดคำหยาบ

ในช่วงวัยเรียนจะหลีกเลี่ยงต่อการพูดหยาบคายกับเพื่อนนั้นเป็นไปได้ยาก ซึ่งนั้นก็จะเป็นผลดีกับการออมเงินวิธีนี้ ในแต่ละครั้งที่เราหลุดพูดคำหยาบออกมา เราก็จะเสียเงินให้กับถุงออมสินเล็กๆที่เราแยกไว้ในกระเป๋าเรียน หรือถ้าอยากให้มีความสนุกมากขึ้น ลองกำหนดคำหยาบออกมาแล้วเพิ่มจำนวนเงินเข้าไป ทีนี้แทนที่เราจะมีเงินใช้จ่าย มันอาจจะกลายเป็นเงินเก็บเราแทนก็ได้นะเออ (พูดหยาบจนเงินหมด ต้องระวังกันด้วยนะเด็กๆ)

 

8. เก็บเงินชั่วโมงอินเตอร์เน็ทเวลาเล่นเกมส์

วัยเรียนและการเล่นเน็ทนั้นเป็นของคู่กัน และในวัยเรียนการเล่นเกมส์จะหนักหน่วงมากกว่าคนวัยทำงานเป็น 2 เท่า ดังนั้น เราจึงพลิกวิกฤตตัวนี้ให้เป็นโอกาสทองในการออมเงิน วิธีการเดียวกับการใช้ห้องน้ำ เพียงแต่วิธีนี้ เงินที่จะใช้หยอดต้องมากขึ้นกว่าเดิม อาจจะชั่วโมงละ 20 หรือจะ 25 บาทก็แล้วแต่ที่เรากำหนด แต่ไม่ควรต่ำกว่านั้น เพราะนั้นจะทำให้เรายอมเสียเงินเพิ่มไปเรื่อยๆหากเรากำหนดการจ่ายเงินที่ถูกกว่า

 

 9. เก็บเหรียญ 2 บาท 

การเก็บเหรียญสองบาทถึงแม้จะฟังดูน้อย แต่ถ้าลองมองดูจริงๆ ในชีวิตประจำวันของเรา เหรียญสองบาทนั้นมีมากกว่าที่คิด อีกทั้งยังง่ายต่อการเก็บและการนับไปฝากธนาคาร

 

 10. เก็บเงินทั้งแบงค์และเหรียญที่มีเลข 9 ลงท้ายทั้งหมด 

ตามความเชื่อนั้นเลข 9 มีความเป็นมงคลต่อการใช้ชีวิตนั้นก็คือ การก้าวหน้า ก้าวไปเรื่อยๆไม่ถอยกลับก็ดั่งเช่นการเก็บเงินก็เช่นกัน เก็บไปเรื่อยๆ ไม่เอาออกมาใช้ ถ้าหากวิธีทั้ง 9 นั้นยังไม่เวิร์คพอ การเอาเลข 9 มาช่วยเสริมก็อาจจะทำให้การเก็บเงินของเรามีเรื่องราวมากขึ้น แต่เราจะต้องเก็บทั้งเหรียญและก็แบงค์ หลายคนสงสัยแล้วเหรียญจะดูยังไงละว่ามีเลข 9 เพราะมันไม่ได้เหมือนแบงค์ที่เรียงตามลำดับ ให้ดูตรงพ.ศ. ถ้าลงท้ายด้วยเลข 9 เมื่อไหร่ ให้เก็บทันที ไม่ว่าจะ 39 49 หรือ 59 ก็ตาม

 

เห็นไหมว่าการเก็บเงินนั้นไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป เพราะด้วยความที่เป็นวัยเรียน การเก็บเงินแบบเดินไปฝากธนาคารมันดูน่าเบื่อ จึงทำให้ไม่อยากจะเก็บเงิน การลองเปลี่ยนการออมเงินในวิธีแปลกๆอาจจะเป็นตัวช่วยให้รู้จักการเก็บเงินได้มากขึ้น อีกทั้งเราก็สามารถนำเงินส่วนนี้เป็นทุนสำรองใช้จ่ายอื่นๆในยามฉุกเฉิน โดยไม่ต้องขอพ่อแม่เพิ่มในยุ่งยากใจ