การเป็นหนี้ของคุณอาจจะทำให้ต่อมความเครียดของคุณทำงานได้ แต่ก่อนที่จะเครียดเกินไป เรามาหาทางออกสำหรับคนเป็นหนี้กันดีกว่า จำไว้ว่า เป็นหนี้ได้ ก็ต้องรับมือได้ อย่าเพิ่งเครียดเกินไป

 

ทางออกที่ 1 เจรจากับเจ้าหนี้

          การเจรจากับเจ้าหนี้คือ ทางออกแรก หากคุณติดขัดไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดจริงๆในช่วงนั้น การเจรจาเพื่อให้เจ้าหนี้รับทราบก่อน และ นัดวันชำระใหม่อีกครั้ง เพราะหากคุณไม่มีแล้วเงียบหายไปเจ้าหนี้อาจจะคิดว่าคุณกำลังพยายามหนีหนี้อยู่ก็ได้ ในกรณีที่เป็นหนี้ก้อนใหญ่คุณอาจจะขอเจรจาผ่อนชำระเป็นงวดๆแต่ละเดือนจนครบสัญญาโดยให้ดอกเบี้ยตามกฎหมาย หรือ หากในเดือนนั้นคุณมีเหตุทำให้ไม่สามารถผ่อนชำระได้ คุณก็ควรแจ้งว่าจะชำระให้ในวันไหน ต้องระบุวันที่แน่นอน อีกทั้งต้องทำตามที่พูดได้ด้วย เพื่อไม่ให้เสียเครดิต

 

ทางออกที่ 2 รวมหนี้ให้เป็นก้อนเดียว

         หากคุณมีหนี้มากกว่า 1 และเริ่มจะผ่อนชำระไม่ไหว ต้องเอาเงินก้อนโน้นมาโปะก้อนนี้ เราขอแนะนำให้คุณทำการรีไฟแนนซ์หนี้กับสถาบันการเงินที่เขารับ เพื่อให้หนี้กลายเป็นก้อนเดียว และทำการผ่อนชำระกับเจ้าหนี้เพียงเจ้าเดียว แต่อย่าลืมว่าถ้าคุณรีไฟแนนซ์แล้วคุณจะทำการผิดนัดเป็นหนที่สองไม่ได้แล้วนะ เพราะคราวนี้อาจจะถึงขั้นฟ้องศาลเลยทีเดียว เสียเวลาการทำงาน และ เสียค่าใช้จ่ายให้กับศาลอีกด้วย

 

ทางออกที่ 3 หยุดการชำระเป็นงวด และ ยอมติดแบล็คลิสต์

          ทางออกนี้เป็นทางออกสุดท้ายที่เราไม่แนะนำสักเท่าไหร่ เนื่องจากคุณจะเสียเครดิต หรือหากร้ายแรงคุณอาจจะโดนฟ้องล้มละลายไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้อีก แต่ทางออกนี้เหมาะกับการที่คุณจะรีบหาเงินก้อนมาโปะ โดยหยุดชำระหนี้สัก 3 งวด และรอให้ทางเจ้าหนี้ทวงถาม(ในส่วนนี้คุณอาจจะต้องอดทนเพราะเขาอาจจะมาถึงที่ทำงาน หรือ บ้านของคุณทำให้คุณอับอายได้) และในระหว่างที่ดำเนินการฟ้องร้องคุณ หากคุณมีหนทางในการหาเงินมาโปะก็รีบนำมาใช้ซะ หรือไปเจรจาขอทำการลดหนี้ว่าคุณมีเงินจำนวนเท่านี้ขอจ่ายเลยโดยไม่ขึ้นศาลได้หรือไม่

 

          จาก 3 ทางออกที่เรานำเสนอไป คุณอาจะลองใช้เป็นแนวทางว่าคุณจะเลือกทางออกไหนที่ดี และ เหมาะสมกับตัวเองมากที่สุด แต่ทางที่ดีหากเป็นหนี้แล้วก็ควรจะชำระให้ครบตามกำหนด เพื่อไม่ให้เสียมาถึงหน้าที่การงาน และ ตัวคุณเอง